วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559

วิธีฝึกนกซันคอนัวร์บิน


วิธีฝึกนกซันคอนัวร์บิน

การฝึกนก ift มีทั้งหมด 3 แบบ จากที่พบมา ซึ่งล้วนให้ความสำเร็จ เหมือนกัน แต่.. แตกต่างกันที่เวลาของความสำเร็จ 3เดือน 5เดือน และ 7-8เดือน
แบบที่ 1 IFT แท้ ๆ เลี้ยงนกจากเด็กอ่อน สร้างความสัมพันธ์ ระหว่างเติบโต และให้โอกาสออกมาบินในช่วงที่กำลัง วีน การเลี้ยงแบบนี้จะได้นกที่บินได้ภายใน 2 เดือน (อายุนก3เดือนในซันคอนัว 40 วันใน ฟอพัส และ 4เดือนในนกมาคอวBG)และภายใน 3 เดือนหลังจากนั้น จะพัฒนาการบินไปสู่ขั้นที่สูงกว่าได้
แบบที่ 2 IFT ประยุกต์ เป็นการลดโอกาสสูญเสียนกจากภาวะเด็ก การกลัวความสูง และการตื่นตกใจ วิธีนี้ เป็นการ ให้ความสัมพันธ์ ยาวววออกไปอีกจนพ้นระยะวีน และ ฝึกให้เค้าพัฒนาการบินอยู่ในที่ปิด จนพ้นภาวะเด็ก ในซัน อาจจะใช้เวลาสัก 4-5 เดือนนำออกมาปล่อยนอกบ้านได้ เมื่อ นกออกมานอกบ้านแล้ว ประสบการณ์การฝึกบินในบ้านจะเป็นตัวนำพาให้เค้ากลับมาได้แบบที่เรียกว่า มั่นใจกว่า แต่ในขณะที่ การเลี้ยงแบบที่ 1 นั้น นกอายุ 5 เดือน พัฒนาไปไกลขนาดที่เรียกได้ว่า บินผาดโผนได้แล้ว ก็เป็นได้ วิธีนี้มักใช้กับนกขนาดใหญ่ เช่น เกรย กระตั้วและ มาคอว์ หรือ อาจใช้ได้กับนกเล็กที่เจ้าของไม่มีเวลาปล่อยบินมากนัก
แบบที่ 3 แนวร่วม IFT วิธีนี้ไม่ได้เกิดจาก IFT แท้ ๆ แต่เป็นการคิดขึ้นมาจากกลุ่มคนทีเคยเลี้ยงขลิปปีกมาก่อน ผสมผสาน และเกิดใจรักการบินแบบ IFT ขึ้นทีหลัง ซึ่งทำให้ การเลี้ยงแบบนี้ เกิดขึ้นได้กับคนที่ "ไม่มั่นใจเลย" ในนกของตนหรืออาจเรียกได้ว่า มีเวลาน้อยกว่าแบบที่ 2 มาก วิธีการก็คือ การขลิปปีกในชุดขนแรก แล้วเลี้ยงโดยปรกติ อาจฝึกในช่วงท้าย ๆ ของชุดขนแรก ซึ่งกำลังจะผลัดเป็นขนชุดที่2 เมื่อถึงเวลานั้น นกจะมีอายุมากพอที่จะสะสมประสบการณ์ และความต้องการ ในการบิน และมีความผูกพันธ์ กับเจ้าของมากพอ วิธีนี้พบครั้งแรก กับคุณ ปอม สมาชิก IFT หมายเลขหลักเดียว ต้น ๆ ที่มีนกตัวแรกขลิปปีกจากผู้ขายมาแล้ว พบรายที่สองคุณ hamkorat แห่ง birdslover และ คุณพี่แก้ว เจ้าแม่นกบินตะวันออก ในเจ้า "กล้วยใข่" นั่นเอง
ฉะนั้นการฝึกนกด้วยวิธีต่าง ๆ ต่อไปนี้ คงเป็นทางเลือกเพิ่มได้อีกสำหรับท่านที่มีเวลาน้อยกว่า ปกติในช่วงเวลาของการเลี้ยงนกเหล่านี้ ที่จะเลือกช่วงเวลา และ รูปแบบความสำเร็จไม่ว่าจะเป็นแบบ รวดเร็ว เป็นไปตามพัฒนาการของมันในวิธีที่ 1 การรอให้มันพร้อมในทุก ๆ ด้านในวิธีที่ 2 และ การเตรียมความพร้อมของความสัมพันธ์และทางด้านจิตใจในวิธีที่ 3 ผมหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยท่านได้มากในการเลือกความสะดวกในช้อยส์ด้านบนนี้

ข้อควรรู้ในตัวนกซันคอนัวร์


ข้อควรรู้ในตัวนกซันคอนัวร์
1. นกแก้วซันคอนัวร์ เชื้อชาติสายพันธุ์เดิมอยุ่ที่ไหน....
ตอบ...
ซันคอนัวร์ Sun conure เป็นนกปากขอขนาดกลาง มีความยางจากหัวไปถึงหางประมาณ 30 เซ็นติเมตร น้ำหนักประมาณ 100-120 กรัม มีถิ่นกำเหนิดแถบอเมริกากลาง และอเมริกาไต้ พบมากในป่าของประเทศกิอานาและบางส่วนของประเทศบาซิล
คำว่าซันคอนัวร์ เสมือนดวงอาทิตย์ที่ขึ้นแล้วเริ่มมีสีหลายสีเปลี่ยนแปลงและสะท้อนภาพรวมธีมส้ม-เหลือง-เขียว 

2.นิสัยของนกซันคอนัวร์ ทั่วไปเป็นอย่างไร.....
ตอบ...
ซันคอนัวส์ เป็นนกที่มีนิสัยขี้เล่น ซุกซน และตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เป็นนกที่เข้ากับคนได้ดี สามารถนำมาฝึกให้เชื่องได้โดยเฉพาะถ้าเริ่มเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆ เป็นนกที่เข้าใจภาษาคนได้ดี เสียงร้องค่อนข้างดังและต่อเนื่อง

3.ซันคอนัวร์
- กี่ปีถึงจะเข้าสู่วัยรุ่นพร้อมผสมพันธุ์ 
-ออกไข่ครั้งละประมาณกี่ฟอง
-การตรวจเพศวิธีใดแน่ชัดสุด
ตอบ...
ซันคอนัวร์ เมื่ออายุประมาณ 2 ปี่ ก็เข้าจะเริ่มสู่วัยเจริญพันธุ์ ออกไข่ครังละ 2-5 ฟอง สามารถให้ผลผลิตได้ปีละ 3-4 ครอก(บางคู่อาจได้ถึ 5 ครอก) ใช้เวลาฟักไข่ประมาณ 23-25 วัน การเลือกนกที่จะนำมาทำพ่อแม่พันธุ์ ต้องเลือกนกที่สมบูรณ์ แข็งแรง มีการตื่นตัวกับสิ่งเร้ารอบข้างอยู่ตลอดเวลา การแยกเพศของนกทำได้โดยการเจาเะเลือดเพื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งให้ผลค่อนข้างแม่นยำ มีการผิดพลาดน้อยกว่าการดูจากลักษณะภายนอกและการจับตะเกียบ ซึ่งมีโอกาสผิดพลาดค่อนข้างสูง
4.อาหารใดที่แนะนำให้นกซันคอนัวร์ หรือนกแก้วปากขอกิน
ตอบ...
ผมขอแบ่งอาหาร สำหรับนกเลี้ยง2ระยะใหญ่ๆคือ

4.1 อาหารขณะเป็นลูกป้อน (ลูกนก)
อาหารที่ให้ลูกนกวงศ์นกแก้ว ควรเป็นอาหารสำหรับลูกนกโดยเฉพาะ ไม่ใช่อาหารสำหรับเด็กอ่อน เนื่องจากนกและคนมีความต้องการสารอาหารแตกต่างกัน ในการอุ่นอาหาร ถ้าใช้เตาไมโครเวฟ ต้องคนอาหารให้เข้ากัน และใช้ เทอร์โมมิเตอร์ในการวัดอุณหภูมิทุกครั้ง อุณหภูมิของอาหารที่เหมาะสมสำหรับป้อนลูกนก คือ 35-40.5 องศาเซลเซียส

4.2 อาหารเมื่อนกโตเต็มวัย ขนคลุม
สำหรับนกโตเต็มวัยควรได้รับอาหาร 3 ประเภทหลักๆ คือ ผัก และผลไม้ ถั่วต่าง ๆ และเมล็ดพืช ในอัตราส่วนใกล้เคียงกันเป็นประจำทุกวัน โดยถั่วที่ให้นกกินควรเป็นถั่วต้มสุก ร่วมกับการให้วิตามิน และแร่ธาตุสำหรับนก ไม่ควรให้นกกินเฉพาะเมล็ดพืช เนื่องจากนกจะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนอาหารหลักที่ให้
สรุป....ซันคอนัวร์ คือเมล็ดธัญพืชชนิดต่างๆ เช่นเมล็ดทานตะวัน ข้าวโอ๊ด ข้าวไรน์ มิลเล็ต เมล็ดปอ ๆลๆ แล้วเสริมด้วยผลไม้หลากหลายชนิดผลัดเปลียนกันไปตามโอกาส เช่น ข้าวโพดสด ฝรั่ง แอปเป็ล แครอท กล้วยน้ำหว้าสุก ฯลฯ ที่ต้องให้เมล็ดธัญพื่ชและผลไม้หลายๆอย่าง เพราะจะทำให้นกได้รับสารอาหารครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย กระดองปลาหมึก เปลือกหอยป่น ก็นับเป็นสิ่งสำคัญ ควรนำมาให้นกได้จิกแทะกิน เพื่อเป็นการคลายเครียด และยังทำให้นกยังได้รับแร่ธาตุที่สำคัญอีกด้วย

5.ขนาดของกรง ที่เหมาะสม ในการเลี้ยงซันคอนัวร์
ตอบ....
กรงสำหรับเลี้ยงซันคอนัวร์เพื่อการเพาะพันธุ์ ควรมีความยาวของกรงประมาณ 120-150 เซนติเมตร ความกว้างและความสูงประมาณ 70-100 เซนติเมตร ต้องเป็นกรงที่มีความแข็งแรงพอประมาณ ขนาดของลวดที่ใช้ทำกรงต้องมีขนาดใหญ่(ขนาดลวดเบอร์ 13 เป็นอย่างน้อย) ขนาดความถี่ของซี่ลวดต้องมีความเหมาะสม คือถ้าเลี้ยงในโรงเรือนที่มีตาข่ายล้อมรอบ ก็สามารถใช้กรงที่มีซี่ห่างๆได้ เช่น 1*2 นี้ว หรือ 1*1.5 นิ้ว แต่ถ้าเป็นการเลี้ยงภายนอกโรงเรือน กรงที่ใช้เลี้ยงต้องสามารถป้องกันหนูและงูที่จะเข้าไปทำร้ายนกที่เราเลี้ยงได้ คือเราต้องใช้กรงที่มีซี่ลวดถี่ๆนั้นเอง และควรจะมีลิ้นชักสำหรับให้อาหารนกเพื่อป้องกันไม่ไห้นกหลุด หรือบินสวนออกมาในขณะที่เรากำลังให้อาหารด้วย
กรงที่ใช้เลี้ยงควรติดตั้งคอนที่ทำด้วยไม้หรือวัสดุอื่นจำนวน 2 อัน ควรติดตั้งไว้ที่ระดับสูงบริเวณปากทางเข้ากล่องไข่ 1 อัน และไว้ที่ระดับต่ำ 1 อัน เพื่อให้นกสามารถกระโดดไปกระโดดมาได้อย่างสะดวก

6. จะทราบได้อย่างไรว่านกที่เลี้ยงพร้อมจะเป็นพ่อแม่พันธุ์
ตอบ.....
การเลี้ยงนกที่จะนำมาเป็นพ่อแม่พันธุ์ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เมล็ดธัญพืช ผักสด ผลไม้ วิตมิน และแร่ธาตุ ต้องจัดให้อย่างต่อเนื่องอย่าให้ขาด เพื่อให้นกมีความสมบูรณ์ แข็งแรงมากที่สุด เพื่อนำไปสู่การสร้างผลผลิตที่ดี
การเข้าคู่ของนกที่จะนำมาทำเป็นพ่อแม่พันธุ์ เราจะสังเกตุจากพฤติกรรมต่างๆของนก เช่นการป้อนปาก แต่งขนไซร์ขนให้กัน เริ่มเข้าออกกล่องไข่และคุ้ยกล่องใข่เพื่อตกแต่งแป็นรังไข่ แม่นกจะเริ่มออกไข่หลังจากได้รับการผสมพันธุ์ประมาณ 1-2 อาทิตย์ ก่อนการออกไข่นกจะเริ่มมีอาการดุขึ้น แสดงอาการหวงกล่องไข่เมื่อเราเข้าใกล้ นกตัวเมียกินอาหารเก่งขึ้น ขนาดร่างกายดูอ้วนและสมบูรณ์ขึ้น ท้องจะห้อยหรือย้อยจนสังเกตุเห็นได้ชัด นกซันคอนัวร์จะออกไข่วันเว้นวัน จำนวนครอกละ 2-5 ฟอง ระยะเวลาการกกไข่ 23-25 วัน ลูกนกจึงจะเริ่มออกจากไข่ ช่วงระยะเวลาทีนกเริ่มออกไข่ กกไข่ และช่วงลูกนกออกจากไข่ใหม่ๆ ผู้เลี้ยงควรหลีกเลี่ยงการเปิดกล่องไข่โดยไม่จำเป็น เพื่อป้องกันไม่ไห้พ่อแม่นกเกิดความหวาดระแวง หรือตื่นตกใจ จนนำไปสู่การเหยียบไข่ การทำลายไข่ หรือการทำร้ายลูกนกได้

7.ทำอย่างไรเมื่อมีผลผลิตเจ้าตัวน้อยเพิ่มในครอบครัวนก
ตอบ...
เมื่อลูกนกเกิด ควรปล่อยให้พ่อแม่นกเลี้ยงลูกนกไปสักระยะหนึ่งก่อน แต่จะนานแค่ไหนก็ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนของลูกนกที่เกิดมา และความเก่งหรือความขยันของพ่อแม่นกในการเลี้ยงดูลูกนก พ่อแม่นกแต่ละคู่จะเลี้ยงลูกนกไม่เหมือนกัน บางคู่เลี้ยงลูกได้ 4 ตัวสมบูรณ์ดีทั้ง 4 ตัว แต่บางคู่เลี้ยงลูกโตและสมบูรณ์แค่ 1 หรือ 2 ตัวแรก ตัวที่ 3-4 แคระแกรน และบางคู่ไม่ยอมเลี้ยงลูกเลยก้อมี สิ่งต่างเหล่านี้ผู้เลี้ยงจะต้องเอาใจใส่และจดจำให้ได้ว่านกของท่านเป็นอย่างไร และจะจัดการอย่างไรที่จะทำให้เกิดความสูญเสียน้อยที่สุด แต่สำหรับผู้เขียนเอง จะปล่อยให้พ่อแม่นกเลี้ยงลูกตัวแรกประมาณ 7 วันจึงค่อยนำลูกตัวแรกหรือตัวที่โตสุดออกมาเลี้ยง(ป้อน)แทนพ่อแม่ จากนั้นอีก 3-4 วันจะเอาลูกนกตัวที 2 ออก และต่อจากเอาตัวที่สองออกได้ 3-4 วันจึงเอาตัวที่ 3 ออก ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดลูกนกในกล่องไข่ สาเหตุที่ต้องทำเช่นนั้นก็เพราะเหตุผล 3 ประการคือ

1. ป้องกันไม่ให้ลูกนกที่ตัวใหญ่เบียดทับลูกนกตัวเล็กๆ จนเกิดความเสียหาย
2. ไม่อยากให้พ่อแม่นกเลี้ยงลูกหลายตัวนานเกินไป จนเป็นเหตุให้พ่อแม่นกทรุดโทรม
3. พ่อแม่นกเลี้ยงลูกใช้ระยะเวลาน้อยเท่าไหร ก็จะสามารถให้ผลผลิตครั้งต่อไปเร็วขึ้น

หลังจากที่เอาลูกนกออกจากกล่องไข่เพื่่อนำมาเลี้ยง(ป้อน)เอง จนหมดจากกล่องไข่แล้ว ผู้เลี้ยงต้องทำความสะอาดกล่องไข่ เปลี่ยนวัสดุรองรัง(ถ้าเป็นไปได้นำกล่องไข่ไปตากแดดด้วยก็ดี) ต่อจากนั้นก็ให้น้ำ ให้อาหาร ให้วิตมินและแร่ธาตุ และคอยดูแลเอาใจใส่นกของท่านอย่างสม่ำเสมอ อีกไม่นานนกของท่านก็จะออกไข่หรือให้ผลผลิตออกมาให้ท่านเชยชมอีกครั้ง
8.พฤติกรรมซันคอนัวร์ ในทุกๆวัน สือความหมายอะไรออกมาได้บ้าง
ตอบ...
8.1นิสัยเรียกร้องความสนใจ เมื่อ นกคอนัวร์ รู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแล้วในตอนเช้าเมื่อคุณตื่นแล้วคุณอาจได้ยินเสียงพองขนเล่นของเล่น หรือเสียงบ่นเบาๆ มาจากกรงของเจ้าคอนัวร์
8.2 การอาบน้ำ นกคอนัวร์ รักการอาบน้ำเป็นชีวิตจิตใจ เราควรอาบให้นกตอนเช้าด้วยน้ำอุ่น เพื่อให้ขนแห้งได้ทันเวลาที่นกจะเข้านอน

8.3 การขบฟัน นกคอนัวร์ จะขบฟันช่วงที่มันใกล้จะหลับ การขบฟันในนกถือเป็นเรื่องธรรมชาติของนก

8.4 การเช็ดปาก หลังมื้ออาหารทุกมื้อ นกคอนัวร์ จะเช็ดปากของมันกับคอนที่มันเกาะ หรือแขนเสื้อของคุณขณะที่มันเกาะอยู่

8.5กายกรรมแบบนก ๆ กิริยาที่ นกคอนัวร์ ทำคล้ายกับการบิดขี้เกียจ ยืดแข้งยืดขา ซึ่งถือเป็นปกติธรรมดาของนก

8.6การกัด เป็นการแสดงสัญชาตญาณการอยู่ร่วมกันของ นกคอนัวร์ ที่อาศัยอยู่ในป่า การกัดของมันตามลำพังแสดงว่ามันกำลังทดสอบสิ่งรอบ ๆ ตัวของมันอยู่

8.7การนอนกลางวัน การนอนกลางวันเป็นการงีบหลับ นกคอนัวร์ จะงีบหลับไปบ้าง ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงส่อไปทางเจ็บป่วย ก็ไม่ต้องกังวลกับการงีบหลับของนก

8.8การเคี้ยว นกคอนัวร์ ชอบที่จะขบเคี้ยว กัดแทะ สิ่งต่างๆรอบตัวเสมอ ซึ่งผู้เลี้ยงต้องมีของเล่นให้นกได้เคี้ยวตลอดเวลา
8.9การจ้องมองของนก เมื่อ นกคอนัวร์ เห็นอะไรที่ทำให้เกิดความตื่นเต้นหรือสนใจ รูม่านตาของมันจะเบิกกว้างและหดตัวขึ้นและลง
8.10 การพองขน เป็นการคลายความตึงเครียดของ นกคอนัวร์ แต่ถ้ามันพองขนตลอดเวลานั้นอาจเป็นสัญญาณเตือนได้ว่านกกำลังเจ็บป่วย
 
8.11การไซร้ขนให้กันและกัน เป็นนิสัยของ นกคอนัวร์ ที่จะทำให้คู่ของมันหรือเพื่อนนกที่สนิทกันเท่านั้น
8.12การจับคู่ นกจะจับคู่กันไม่ว่าจะเป็นเพศเดียวกันหรือไม่ มันจะไซร้ขนให้กัน เลียนแบบท่าทางของคู่มันตลอดเวลา
8.13ความรู้สึกเป็นเจ้าของ จะแสดงออกถึงการหวงเจ้าของมัน มันมักจะกัด และ ขู่ตัวอื่น
8.14การไซร้ขน เป็นกิจวัตรประจำของมันซึ่งจะทำร่วมกับการพองขน และมีการจิกขนตัวเองในช่วงนี้สำหรับฤดูผลัดขน
8.15การสำรอกอาหาร กิริยาของนกที่จ้องบางอย่างแล้วขณะเดียวกันก็ผงกหัวด้วย นั้นคือมันจะสำรอกอาหารให้กับคู่หรือลูกของมัน ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความรักอันยิ่งใหญ่
 
8.16การยืนพักขาเดียว การที่นกยืนขาเดียวถือเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าคุณเห็นนกยืน 2 ขา ตลอดเวลา คุณควรจะนำนกไปหาสัตวแพทย์เพราะอาการดังกล่าวเป็นสัญญาณของสุขภาพที่ไม่แข็งแรง
8.17การกรีดร้อง นกคอนัวร์ จัดว่าเป็นนกที่มีเสียงดัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนกรู้สึกว่ามันถูกทอดทิ้งและเจ้าของไม่มีเวลาให้นกจะยิ่งส่งเสียงร้อง บางครั้ง นกคอนัวร์ ก็ถือเป็นนกขี้เหงาและต้องการให้เจ้าของให้ความมั่นใจกับมันว่ามันไม่ได้อยู่ตัวเดียว นกคอนัวร์จะร้องส่งเสียงเพื่อที่จะดูว่าคนในบ้านไปไหนกันหมดทิ้งมันไว้ตัวเดียวหรือเปล่า เจ้าของสามารถให้ความมั่นใจกับนกได้โดยการขานรับ บางขณะนกจะร้องเมื่อมีบางสิ่งบางอย่างในสภาพแวดล้อมทำให้มันตกใจกลัว ในกรณีนี้คุณจำเป็นต้องใช้เวลากับนกและลดความกลัวในตัวนกลง นกจะส่งเสียงกรีดร้องตามสัญชาติญาณเพื่อปกป้องฝูงของมันด้วย เมื่อนกรู้สึกเหนื่อยจะมีอาการหงุดหงิด และบางครั้งจะส่งเสียงร้องกรณีนี้เราควรจะคลุมกรงของมัน เพื่อให้มันสงบลงและปรับตัวเพื่อจะเข้านอนเร็วขึ้น

------คุณศักดิ์ศรัณย์/คุณชายกำแพงเพชร ----------เรียบเรียง ให้อ่านเข้าใจง่ายๆ-----
แหล่งที่มา http://www.nokbin.com/default.asp?content=wboarddetail&wbid=34&qid=113062

การฟักไข่นกแก้วซันคอนัวร์

การฟักไข่นกแก้วซันคอนัวร์

การฟักไข่ เป็นขั้นตอนที่ต้องดูแลอย่างละเอียดเพื่อจะได้ไข่นกแก้วซันคอนัวร์ และลูกนกตัวน้อยที่จะเจริญเติบโตขึ้นมาในอนาคตเพราะฉะนั้นขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ต้องคอยสังเกตุและใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง
การผสมพันธุ์ของนกแก้วพันธุ์ซันคอนัวร์จะมีวิธีการจะใช้หางไขว้กันเป็นลักษณะกากบาท เป็นการผสมพันธุ์และสามารถออกไข่ปีละ 5-6 ครั้ง ดังนั้นหลังจากที่นกผสมพันธุ์และออกไข่ ขั้นตอนที่สำคัญในช่วงของการฟักไข่ทางผู้เลี้ยงต้องมีการดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งมีขั้นตอนในการฟักไข่ ดังนี้
ฟักไข่
วัสดุอุปกรณ์:
กล่องไม้รูปตัว L
- ตาข่ายขั้นบันได
ฟักไข่
วัสดุอุปกรณ์:
- ตะขอเกี่ยว
- ขี้เลื่อย

ฟักไข่
ขั้นตอนวิธีการ:

เตรียมกล่องไม้รูปตัว L **สาเหตุที่ต้องเป็นรูปตัว L เนื่องจากเวลาที่นกฟักไข่ ช่วงที่ลงไปในกล่องจะได้ไม่ทับไข่ภายในกล่องจะมีตาข่ายขั้นบันไดเพื่อสะดวกในการปีนลงมาในกล่อง
ใช้ขี้เลื่อยใส่รองพื้นลงไปประมาณ 50 กรัมต่อ 1 กล่องเพื่อให้ความนุ่ม อบอุ่นในการฟักไข่
ฟักไข่
- แขวนไว้ด้านมุมของกรงด้วยตะขอเกี่ยว


ฟักไข่
นกพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์จะใช้ช่วงเช้าในการผสมพันธุ์ซึ่งการนกพันธุ์นี้สามารถผสมพันธุ์ได้ทั้งปี 1 ปีได้ผลผลิต 5-6 ครั้ง
การฟักไข่
หลังจากที่นกผสมพันธุ์ ก็จะออกไข่ตัวละประมาณ 5-6 ฟอง
ฟักไข่
นกจะฟักไข่ในกล่องซึ่งไข่ใบแรกจะแตกออกเป็นตัวใช้เวลา 21 วัน
เว้นประมาณ 2 วันไข่ใบที่ 2,3,4 ก็จะแตกออกเป็นตัวตามมา
ไข่นกจำหน่ายได้ใบละ 700 บาท, นกเริ่มมีขนปีกแตกหลอดมีสีขน ตัวละ 2,500 - 3,000 บาท, นกบิน(2 เดือน) จำหน่ายตัวละ 4,500 - 5,000 บาท

***ไข่ที่สมบูรณ์จะมีลักษณะสีขาวขุ่น(เหมือนสีไข่เค็ม) แสดงว่าเชื้อสมบูรณ์ ส่วนไข่ที่ไม่สมบูรณ์จะมีลักษณะสีใส ไข่ลักษณะนี้ไม่มีเชื้อ ไม่ฟัก***
***การผสมพันธุ์ซันคอนัวร์จะใช้หางไขว้รูปกากบาท***


แหล่งที่มาของข้อมูล :
คุณนายสมเกียรติ บวรสถิรกุล
ที่อยู่ : หมู่ที่1 ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

ขอคำแนะนำการเลี้ยงนกแก้วซันคอนัวร์

ขอคำแนะนำการเลี้ยงนกแก้วซันคอนัวร์

1.การป้อนอาหาร ทางร้านและในหลายๆเว็บบอกว่า ให้ป้อนด้วยไซลิงค์ที่มีสายยาง แหย่มันลงกระเพาะ แล้วฉีดลงกระเพาะ ประมาณหนึ่งไซริง กับอีกครึ่งหนึ่ง แต่รู้สึกสงสารมันมากอาค่ะ ถ้าเราป้อนเขาด้วยไซริง แต่ไม่มีสายยางได้หรือเปล่าค่ะ บางคนบอกได้ บางคนบอกว่ามันคลืนอาหารยังไม่เป็น เดี๋ยวมันจะสำลักอาหารตาย กลายเป็นหวังร้ายยย (โดนส่วนตัวคิดว่า สงสัยที่เราแย่ลงไป มันเลยกระตุกๆๆๆๆๆ) และอุณหภูมิของอาหารราวๆ 37 องศา หรือเหมือนป้อนเด็กทารกหรือเปล่าค่ะ 

2.รองขี้เลื่อยไว้ข้างล่าง ต้องเปลี่ยนทุกๆ 3 วัน หรือถ้ามันเริ่มเหม็นฉี่/อึ๊  ถ้าตอนนี้เราเริ่มฝึกให้เขาอึ๊เป็นที่เป็นทางได้แล้วยังค่ะ แล้วถ้าฝึกได้ ต้องฝึกยังไงค่ะ หรือต้องเริ่มฝึกตอนไหน และ ยังไงค่ะ 

3.ของเล่น ควรหาของเล่นประเภทไหนให้เขาดี ค่ะ อ่านมา บางคนก็บอกให้หาลูกบอลตรงกลางมีกระดิ่งให้ (กำลังหาซื้ออยู่เลย ถ้าเป็นพลาสติก เขาจะแทะกินก่อนหรือเปล่าค่ะนี่)​ และบางคนก็บอกให้หาตุ๊กตากับผ้านุ่มๆ ให้เขาไว้นอน กะ เล่น (เตรียมตุ๊กตาไว้เรียบร้อย แต่ยังไม่ใส่ แอบลังเลใจ กลัวการหวังดีเป็นหวังร้าย)

4.วิธีสังเกตุว่าเขาไม่สบาย ง่ายๆ สำหรับมือใหม่ เราจะเอ๋ใจ หรือมีวิธีสังเกตุ อะไรเป็นพิเศษไม๊ค่ะ 

5.หนูเป็นโรค ภูมิแพ้ฝุ่นแป้งถุงมือค่ะ คือเมื่อไม่นานมานี้ได้เป็นโรคภูมิแพ้ เนื่องจากการทำงาน ลักษณะที่เป็น คือ หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก แสบจมูกจนขึ้นสมอง ปวดรูหู แสบคอ และไอรุนแรง ปัจจุบันลาออกแล้วนะค่ะ (ประมาณ 15 วัน) พอหายใจใกล้ๆ กับขี้เลื่อย เรารู้สึกไม่ค่อยโล่งจมูก หายใจลำบาก อึดอัดๆ แต่ถ้าอยู่ห่างออกไปประมาณ 2 ฟุตขึ้นไปจะไม่รู้สึกอะไร วันนี้เพิ่งเอาเขามาวันแรกเลี้ยงในตะกร้า ไม่มีฝาปิด ในห้องนอน กลางคืนเป็นห้องปิดไม่มีช่องระบายอากาศ เปิดแอร์เป็นครั้งครา แต่ไม่เกิน 2 ชม ต่อเวลานอนน (ขี้หนาว) ห้องกว้าง ขนาด มีเตียง 6 ฟุต วางตรงกลางชิดฝาผนังหัวเตียง สามด้านที่เหลือๆ ที่ประมาณหนึ่งก้าวกว้างๆ 
แห่ลงที่มา http://pantip.com/topic/31635311

เทคนิควิธีการคลายเครียดให้นกแก้วซันคอนัวร์


เทคนิควิธีการคลายเครียดให้นกแก้วซันคอนัวร์

ความเครียด เป็นปัญหาสำคัญที่จะทำให้นกแก้วซันคอนัวร์มีอาการที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เกิดความผิดปกติและส่งผลต่อการเจริญเติบโตและการขยายพันธุ์

นกแก้ว
นกแก้วซันคอนัวร์ เป็นสัตว์ที่ต้องการความรัก ความเอาใจใส่ ดังนั้น การดูแลเลี้ยงดูจึงมีความจำเป็นต่อการเกิดความเครียดของนกได้ ซึ่งอาจจะทำให้นกมีอาการเงียบ ซึม โดยส่วนใหญ่จะเป็นอาการผิดปกติซึ่งสันนิษฐานได้ว่า นกมีอาการเจ็บป่วย เบื่ออาหาร ซึ่งก็จำเป็นที่จะต้องมีวิธีการในการคลายเครียดให้กับนก ด้วยวิธีการง่าย ดังนี้
นกแก้ว
 ลักษณะอาการเครียด
•นกจะมีอาการตัวสั่น พองขน
•ท้องร่วง หายใจเร็ว
•สั่นหางและปีก จิกขนตัวเอง
•นอนไม่หลับ ไม่เจริญอาหาร
นกแก้ว
เทคนิควิธีการคลายเครียดให้กับนกคอนัวร์

ให้นกคอนัวร์ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยปกติแล้วนกคอนัวร์ต้องการนอนวันละ 12 ชั่วโมงทุกคืน ในบางครั้งเมื่อนกพักผ่อนเพียงพอนกจะมีอาการหงุดหงิด
ผู้ที่เลี้ยงควรเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอควรให้เวลา พูดคุยกับนก อย่างน้อยวันละ 2 ชั่วโมง
นกแก้ว
ควรเปิดวิทยุหรือโทรทัศน์ทิ้งไว้ อย่าทิ้งให้นกของคุณอยู่ตามลำพังเพราะนกอาจจะรู้สึกเหงาเกินไป
- ไม่ควรเปลี่ยนแปลงบรรยากาศรอบตัวหรือตารางการใช้ชีวิตประจำวันของนก
นกแก้ว
 ***หากนกเครียดติดต่อกันเป็นเวลานานอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพนกได้***

แหล่งที่มาของข้อมูล :

คุณนายสมเกียรติ บวรสถิรกุล

ที่อยู่ : หมู่ที่1 ตำบลหาดทรายรี อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559

การเลี้ยงลูกป้อนซันคอนัวร์

                  

           การเลี้ยงลูกป้อนซันคอนัวร์






         



อุปกรณ์มีอะไรบ้าง


ประกอบด้วย

1. ภาชนะสำหรับเลี้ยงดูที่ดีและเหมาะสมควรเป็นตระกร้า เพราะนอกจากสามารถเลี้ยงลูกนกได้ดี ยังสามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้สะดวก เพื่อง่ายต่อการจัดการ

2. วัสดุรองพื้น เช่น ขี้เลื่อย หรือหญ้าแห้ง โดยนำไปปูไว้ที่พื้นตระกร้าความหนา 1-2 นิ้ว เพื่อลดการกระทบกระเทือนให้กับลูกนก ซึ่งต้องมีการดูแลเปลี่ยนใหม่ทุก 2-3 วัน หรือทุกครั้งที่เห็นว่าเกิดความชื้นหมักหมม

3. อุปกรณ์สำหรับป้อนอาหาร เช่น ไซริงค์ หรือ ช้อนป้อน จะเลือกแบบไหนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าผู้เลี้ยงต้องการป้อนแบบไหน หากต้องการความรวดเร็วในการป้อน ต้องป้อนนกหลายตัว และไม่ให้นกสกปรกเปื้อนอาหาร การเลือกใช้ไซริงค์เหมาะสมกว่า เพราะสามารถป้อนลูกนกได้ครั้งละปริมาณมาก ส่วนการใช้ช้อนป้อนต้องใช้เวลา แต่จะทำให้ผู้เลี้ยงนกคุ้นเคยและใกล้ชิดกับลูกนกมากขึ้น ไม่ทำให้ลูกนกเกิดความระคายเคืองในระหว่างการป้อน ทำให้ลูกนกได้สัมผัสกับรสชาติของอาหาร แต่ไม่เหมาะกับการเลี้ยงนกจำนวนมาก

4. อาหารสำหรับลูกนก นกลูกป้อนต้องกินอาหารเหลว ส่วนใหญ่เป็นผงต้องนำมาผสมกับน้ำอุ่นและรอให้เย็นและนำมาเลี้ยงนก โดยอาหารลูกป้อนมีหลายชนิดให้เลือกมีทั้งที่ผลิตในเมืองไทย และมีการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยราคาและคุณภาพแตกต่างกันไป

5. ยารักษาโรค ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับการเลี้ยงสัตว์ เพราะลูกนกที่นำมาเลี้ยงตั้งแต่เล็กค่อนข้างอ่อนแอ ภูมิคุ้มโรคค่อนข้างต่ำ สามารถเกิดปัญหาหรือป่วยได้ตลอดเวลาหากจัดการผิดพลาด การใช้ยาป้องกันได้ทันเวลาจะลดความเสียหายได้

อาหารลูกป้อนแบรนด์ไหนดีที่สุด

อาหารลูกป้อนในท้องตลาดมีหลายแบรนด์ มีทั้งที่ผลิตในเมืองไทยและสินค้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยคุณภาพและราคาแตกต่างกันออกไป การเลือกใช้ต้องพิจารณาอย่างดีจากหลายส่วนประกอบกัน เช่น ส่วนประกอบในสูตรต้องสอดคล้องกับความต้องการของนก การย่อยได้และดูดซึมของนกทำได้ดี วิธีใช้ต้องสะดวกไม่ยุ่งยาก ความน่าใช้มีสูง มักแบ่งตามขนาดของนกแต่ละพันธุ์(ซันคอร์นัวขนาดเล็ก)

การเลือกใช้อาหารนกลูกป้อนของผู้เลี้ยง ส่วนใหญ่ทำตามคำแนะนำของผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน ซึ่งผู้ที่มีประสบการณ์นั้น ส่วนใหญ่ก็มีข้อมูลเพียงแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งเท่านั้น คือแบรนด์ที่ใช้มาตั้งแต่ในอดีตและมีการใช้เรื่อยมา ในขณะที่ปัจจุบันมีอาหารลูกป้อนแบรนด์ใหม่ออกมา แต่ไม่มีโอกาสรับรู้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าในจุดนี้ จึงไม่มีข้อมูลที่มีคุณภาพเพียงพอ ผู้เลี้ยงจึงต้องหาข้อมูลในเชิงลึกเองด้วย

อาหารนกลูกป้อนคุณภาพที่ดีนั้นควรมีคุณสมบัติดังนี้ มีสารอาหารครบถ้วนสอดคล้องกับความต้องการของนกและโภชนะในสูตรอาหารจะต้องมีความสมดุลเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ สามารถใช้ได้กับลูกนกแรกเกิดไปจนถึงโตเต็มวัย ไม่มีปัญหาการย่อยได้ ลูกนกสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายและมีสุขภาพที่ดี มีความน่าใช้สูง เช่น มีกลิ่นหอม รูปลักษณ์ดี เป็นต้น


นกลูกป้อนเลี้ยงยากหรือเปล่า

การเลี้ยงนกลูกป้อนไม่ยาก แต่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ผู้เลี้ยงที่มีเวลาพร้อมกับมีการศึกษาวิธีเลี้ยงที่ถูกต้อง และเลือกขนาดและอายุของนกที่เหมาะสมกับการเริ่มต้นเลี้ยง โอกาสประสบความสำเร็จในการเลี้ยงมีสูง


การผสมอาหารทำอย่างไร
อาหารลูกป้อนที่มีอยู่ในท้องตลาดแต่ละชนิดมีวิธีการใช้ต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นผง มีความหอมและความน่าใช้ต่างกัน การใช้ต้องผสมน้ำ บางชนิดต้องผสมน้ำร้อนจัด บางชนิดสามารถผสมน้ำอุ่นก็ใช้ได้ทันที อัตราส่วนการผสมระหว่างน้ำและอาหารขึ้นอยู่กับอายุนก  อัตราส่วนการผสมระหว่างอาหารกับน้ำที่เหมาะสม นกอายุ 1-4 วัน อาหาร 1 ส่วน ต่อน้ำ 6-7 ส่วน อายุ 5-14 วัน อาหาร 1 ส่วน ต่อน้ำ 4-5 ส่วน อายุ 14 วันขึ้นไปใช้อาหาร 1 ส่วนต่อน้ำ 2-3 ส่วน4. ควรใช้เทอโมมิเตอร์วัดอุณหภูมิอาหารก่อนป้อนทุกครั้ง อุณหภูมิอาหารที่เหมาะสมสำหรับป้อนลูกนก คือ 35-40 องศาเซลเซียส การผสมใช้ช้อนคนไปมาเพื่อให้อาหารและน้ำเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ก่อนนำไปป้อนลูกนก

อาหารที่ได้รับการผสมอย่างถูกต้องและพร้อมที่จะนำไปป้อนลูกนก จะต้องเนียนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ไม่พบอาหารจับตัวเป็นก้อน และที่สำคัญอาหารจะต้องไม่ข้นหรือเหลวจนเกินไป เพื่อให้อยู่ในสภาพที่ร่างกายนกสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะส่งผลถึงการเติบโตและสุขภาพที่ดีของนกสวยงาม

วิธีการป้อนแบบไหนเหมาะสมกว่า

การป้อนอาหารลูกนกสามารถทำได้สองแบบ คือการป้อนด้วยไซริงค์และการป้อนด้วยช้อน ซึ่งแต่ละวิธีมีความเหมาะสมกับสภาพการที่แตกต่างกัน

การป้อนด้วยไซริงค์มีข้อดีคือ สามารถทำได้รวดเร็ว และป้อนอาหารได้ตามปริมาณที่ต้อง ไม่สกปรก เหมาะกับการป้อนลูกนกเป็นจำนวนมาก

การป้อนด้วยช้อน เป็นวิธีการที่ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการป้อนอาหารลูกนก เพราะเพียงแต่ใช้ช้อนตักอาหารลูกป้อน ค่อยๆป้อนลูกนกไปจนพอ นกที่มีการตอบสนองที่ดีการป้อนจะง่ายมาก แต่การป้อนจะต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆป้อนทีละช้อน ลูกนกได้สัมผัสกับรสชาติของอาหาร และค่อยๆกลืนลงไป ซึ่งต้องใช้เวลามาก และมีโอกาสทำให้ลูกนกเปื้อนอาหาร หากจัดการไม่ดี เหมาะกับการเลี้ยงลูกนกจำนวนไม่มาก ปริมาณอาหารที่ป้อนต่อมื้อ ต้องไม่แน่นกระเพาะ เพื่อเว้นที่ไว้ให้กระเพาะเกิดการบีบย่อย การป้อนอาหารลูกนกบางคนให้มากเกินไป ป้อนจนเต็มกระเพาะจะพบปัญหาตามมาเสมอคืออาหารไม่ย่อย หรือย่อยไม่หมด และเกิดปัญหาการสูญเสียตามมาจากการติดเชื้อ การป้อนอาหารที่น้อยเกินไปก็สร้างปัญหาเช่นกัน เพราะนกจะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการ ทำให้การเติบโตไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

นกลูกป้อนต้องให้น้ำหรือไม่

นกลูกป้อนที่อายุยังน้อยหรือยังต้องป้อนอาหารให้อย่างต่อเนื่อง น้ำสะอาดยังไม่มีความจำเป็นต้องให้ เพราะลูกนกได้รับไปพร้อมกับอาหารเหลวที่ป้อนให้ไปเป็นลำดับแล้ว เว้นแต่กรณีที่นกเริ่มโตใกล้กินอาหารเองได้ และมีการลดจำนวนมื้อในการป้อนอาหารลงไปตามนี้ 
จำนวนมื้อที่ป้อนต่อวันนกเล็กอายุต่ำกว่า 1 เดือน 4-5 มื้อต่อวัน นกอายุ 1-3 เดือน 3 มื้อต่อวัน อายุ 3 เดือนขึ้นไป ขนเริ่มคลุม 2 มื้อต่อวัน เริ่มกินอาหารเองได้บ้าง ลดเหลือ 1 มื้อช่วงเย็น กินเมล็ดธัญพืชได้เองจนเต็มกระเพาะ มื้อและเลิกป้อนไปในที่สุดเมื่อนกกินอาหารเองได้

จำนวนมื้อในการป้อนอาหาร นอกจากจะขึ้นอยู่กับอายุของนก ยังขึ้นอยู่กับชนิดของนก การจัดการผสมอาหารว่ามีความเข้มข้นขนาดไหน และยังขึ้นอยู่กับขนาดกระเพาะพักของนกแต่ละชนิดซึ่งมีขนาดที่แตกต่างกันสามารถจุอาหารได้ไม่เท่ากัน ซึ่งผู้เลี้ยงควรนำข้อมูลเหล่านี้ไปพิจารณาร่วมกันกับข้อมูลพื้นฐานที่ควรจะเป็นข้างต้น


เลี้ยงนกในห้องแอร์ได้หรือเปล่า

นกลูกป้อนสามารถนำไปเลี้ยงในห้องปรับอากาศได้ สำหรับลูกนกที่เริ่มโตและมีขนขึ้นปกคลุมร่างกายแล้ว หากลูกนกยังเล็กขนยังไม่ขึ้นควรหลีกเลี่ยง เพราะอากาศที่เย็นจะส่งผลกระทบกับสุขภาพ ทำให้ประสิทธิภาพการย่อยอาหารลดลง ลดความกระตือรือร้นลง เพราะสภาพอากาศที่ลูกนกต้องการคือ อากาศที่ค่อนข้างอบอุ่นไปจนถึงร้อน

อย่างไรก็ดีหากผู้เลี้ยงมีความจำเป็นต้องนำไปเลี้ยงในห้องปรับอากาศ ควรเลี้ยงอยู่ในกล่องกระดาษหรือตระกร้าที่สามารถควบคุมอุณหภูมิให้อบอุ่นอยู่เสมอได้ เพื่อป้องกันความเสียหาย


อาบน้ำให้ได้หรือไม่

นกลูกป้อนมีขนาดเล็ก ค่อนข้างอ่อนแอ ไวต่อความเสียหาย ต้องการอากาศที่อบอุ่นเป็นพิเศษ กรอาบน้ำควรหลีกเลี่ยง แม้ว่าบริเวณร่างกายจะมีคราบสกปรกจากอาหารและมูลบ้างก็ตาม ควรหาทางป้องกันสิ่งสกปรกไม่ให้ปนเปื้อนจะดีกว่า ด้วยการดูแลความสะอาดของวัสดุรองพื้น พร้อมกับระมัดระวังด้านการป้อนอาหาร หรือไม่เช่นนั้นหากสกปรกมากควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ด เพื่อบรรเทาความสกปรกลง

เมื่อไรถึงเลิกป้อน


นกซันคอร์นัว เลิกป้อนตอนอายุราวๆ2เดือน สิ่งที่สามารถส่งสัญญาณได้ว่าควรเลิกป้อนอาหารลูกนก หรือลดปริมาณอาหารป้อนลงคือ ลูกนกขนขึ้นปกคลุมร่างกายเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ทั้งขนปีก ขนหาง ขนบริเวณหน้าอก ลูกนกกินอาหารป้อนน้อยลง หรือเริ่มมีการต่อต้านการป้อน ลูกนกเริ่มหัดกระพือปีกบิน ลูกนกเริ่มหัดจิกกินหาอาหารเอง เมื่อเห็นสัญญาณเหล่านี้ผู้เลี้ยงควรจัดการอย่างเหมาะสมเพื่อลดความเสียหาย

“นกลูกป้อนที่โตเต็มที่แล้ว หากไม่มีการเลิกหรือลดอาหาร จะสร้างปัญหาและภาระให้กับผู้เลี้ยงตามมา เช่น นกจะกินอาหารเองไม่เป็น ต้องคอยป้อนเรื่อยไป และป้อนอาหารจำนวนมากไม่ได้มีการลดตามขั้นตอนที่เหมาะสม มีความเสี่ยงสูงกับความเสียหายจากการติดเชื้อ ค่อยๆซึม อาหารไม่ย่อย และเสียหายในที่สุด ซึ่งพบได้เป็นระยะ”

วิธีหย่านมลูกนก

พิมพ์ไม่ผิดใช้คำนี้จริงๆ        วิธีคือใส่เมล็ดพืชในนํ้ารอจนเปื่อยแล้วผสมลงในอาหารลูกป้อนเล็กน้อยแล้วค่อยๆลดลงจนเหลือแต่เมล็ดพืชแล้ว ไม่ต้องแช่เมล็ดอีกต่อไป
เป็นอันเสร็จพิธี
วิธีหย่านมลูกนกแบบที่สอง

เริ่มกินอาหารป้อนน้อยลง ให้ผู้เลี้ยงเริ่มนำเมล็ดธัญพืชหรือ ข้าวโพดสด เพื่อให้ลูกนกหัดกิน พร้อมกับลดปริมาณอาหารต่อมื้อลงเช่น จากมื้อละ 10 ซีซี เหลือเพียง 5 ซีซี จำนวนมื้อที่ป้อนจากวันละ 3 มื้อ เหลือ 2 มื้อ และเหลือ 1 มื้อ เป็นลำดับ เพื่อให้ลูกนกรู้สึกหิวและกินอาหาร นกจะค่อยๆกินอาหารเองได้ และเลิกป้อนไปในที่สุด


เมื่อเลิกอาหารป้อนแล้วจะกินอะไรได้บ้าง

นกสวยงามส่วนใหญ่หลังจากเลิกอาหารป้อนแล้ว อาหารหลักที่จำเป็นคือกลุ่มของเมล็ดธัญพืชและผลไม้ เช่น ถั่ว เมล็ดทานตะวัน มิลเลต ข้าวไลน์ ข้าวโพดสด ฝรั่ง แอปเปิ้ล เป็นต้น พร้อมกับมีการเสริมวิตามินและแร่ธาตุให้เป็นระยะ เพื่อให้ได้สารอาหารอย่างครบถ้วน และเติบโตเป็นนกใหญ่ที่มีคุณภาพดีพร้อมให้ผลผลิตต่อไปในอนาคต

“อาหารนกสวยงามควรเลือกที่มีคุณภาพดี และเป็นอาหารผสมที่มีหลากหลายชนิดเพื่อให้นกได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน การให้อาหารแบบซ้ำๆ เพียงชนิดใดชนิดหนึ่ง ไม่ส่งผลดีต่อสุขภาพของนกแต่อย่างใดและต้องเสริมวิตามินและแร่ธาตุให้เป็นระยะ เพื่อให้นกได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ซึ่งจะส่งผลถึงสุขภาพที่ดีตามมา”


นกที่กินอาหารลูกป้อนควรเสริมวิตามินให้ไปหรือเปล่า

โดยปกติอาหารลูกป้อนพรีเมี่ยมเกรด จะประกอบไปด้วยโภชนะที่จำเป็นกับนกสวยงามอย่างครบถ้วนเพียงพอที่จะทำให้ลูกนกเติบโตอย่างมีคุณภาพได้ การใช้อาหารลูกป้อนพรีเมี่ยมเกรดจึงไม่จำเป็นต้องเสริมวิตามินให้แต่อย่างใด แต่เนื่องจากอาหารนกลูกป้อนบางแบรนด์วิธีการใช้ต้องผสมกับน้ำร้อนจัด เพื่อให้อาหารอยู่ในสภาพที่ลูกนกนำไปใช้ประโยชน์ได้ จึงมีโอกาสทำให้วิตามินและสารอาหารบางส่วนถูกทำลายไป ความจำเป็นในการเสริมวิตามินให้ไปจึงมีมากกว่า

“การเลือกใช้อาหารลูกป้อนพรีเมี่ยมเกรด ที่มีสารอาหารครบถ้วนสอดคล้องกับความต้องการ ในขณะที่วิธีการใช้ทำได้ง่ายผสมกับน้ำอุ่นก็สามารถใช้ได้ โดยที่คุณค่าทางอาหารที่มีอยู่ในสูตรยังครบถ้วน ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม ไม่ต้องจัดการที่ยุ่งยากในการเสริมวิตามินให้ไป เป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงสามารถเลือกได้ หากมีการศึกษาข้อมูลในเชิงลึกอย่างชัดเจน”


เลี้ยงลูกนกต้องใช้ยารักษาโรคหรือเปล่า

การเลี้ยงนกลูกป้อน หากสามารถจัดการดูแลได้อย่างสมบูรณ์แบบ สามารถทำให้ลูกนกมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีภูมิคุ้มกันโรคสูง ความจำเป็นในการใช้ยารักษาโรคย่อมมีน้อย แต่โดยสภาพความเป็นจริงแล้วผู้เลี้ยงไม่สามารถดูแลลูกนกได้อย่างดีทุกขั้นตอนการเลี้ยง ความเสี่ยงในการเกิดปัญหากับลูกนกย่อมมีเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จึงมีความจำเป็นต้องมียารักษาโรคเพื่อลดความเสียหาย

“พบปัญหาเสมอสำหรับผู้เลี้ยงนกลูกป้อน โดยเฉพาะมือใหม่ ที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญการเลี้ยงลูกนก ทำให้การจัดการผิดพลาดลูกนกป่วย ไม่มีทางออก ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ทำให้ปัญหารุกลามเป็นเรื่องใหญ่ ทั้งที่หากมียารักษาโรคติดไว้ และให้ตามคำแนะนำ จะลดปัญหาจากหนักเป็นเบาได้”



ลูกนกอ้วกและขย้อนอาหารเป็นเพราะอะไร

การอ้วกหรือขย้อนอาหารของลูกนกเกิดได้หลายสาเหตุ ประกอบด้วย เกิดจากอาการป่วยติดเชื้อในกระเพาะอาหาร ป้อนอาหารมากเกินไป ป้อนอาหารร้อนเกินไป ป้อนอาหารเย็นเกินไป ลูกนกโตเต็มที่พยายามที่จะหัดกินอาหารเอง ผู้เลี้ยงจะต้องหาสาเหตุให้ได้ว่าปัญหาเกิดจากส่วนไหน พร้อมทั้งหาทางแก้ไขจะสามารถลดปัญหาได้ ในกรณีที่มีการติดเชื้อจะต้องมีการใช้ยารักษาโรคแก้ปัญหา ซึ่งควรขอคำปรึกษาจากผู้ที่มีประสบการณ์หรือสัตวแพทย์




แห่งที่มา  http://suncorenure.blogspot.com/